วันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ดนตรี กับ ชีวิต

ดนตรี กับ ชีวิต

โน้ตเพลงแรกที่มนุษย์ร้องได้แว่วหายไปในอากาศเป็นเวลานานเสียจนเราไม่มีวันจะรู้ว่ามนุษย์เริ่มรู้จักร้องเพลงตั้งแต่เมื่อใด
ถึงกระนั้นนักโบราณคดีและนักมานุษยวิทยาก็รู้ดีว่า มนุษย์รู้จักร้องเพลงก่อนที่จะรู้จักเขียนหนังสือ
เพราะได้พบหลักฐานว่าชาว Sumerian รู้จักร้องรำทำเพลงตั้งแต่สมัยก่อนคริสตกาลประมาณ 3,600 ปี
และเมื่อมีการเต้นรำบูชาเทพเจ้า นั่นหมายความว่า ชนเผ่านี้มีความสามารถในการทำอุปกรณ์ดนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนตัวอักษรที่ชาว Sumerian รู้จักประดิษฐ์ขึ้นใช้นั้น ได้เพิ่งอุบัติเมื่อประมาณ 5,000 ปีมานี้เอง

ทฤษฎีมานุษยวิทยาปัจจุบันเชื่อว่า เสียงดนตรีเสียงแรกคงเป็นเสียงตะโกนที่มนุษย์ใช้ในการส่งสัญญาณเวลามีภัย
และมนุษย์ได้ พบว่าเวลาที่เขาเปลี่ยนระดับเสียงให้สูงขึ้นหรือต่ำลงแล้วเปล่งเสียงไปกระทบผนังถ้ำหรือหน้าผา
ความกึกก้องของเสียงสะท้อน คงทำให้เขาตกตะลึงด้วยความตื่นเต้น และเมื่อเขาตะโกนซ้ำๆ
โดยให้เสียงมีความถี่และความดังต่างๆ กัน เขาก็ได้พบว่าเสียง สะท้อนมีความชัดและจังหวะที่หลากหลาย
จากนั้นมนุษย์คงได้เริ่มรู้จักจังหวะดนตรี โดยวิธีปรบมือ กระทืบเท้า ใช้มือตีขอนไม้ เป็นจังหวะ
ดังนั้น เราจึงอาจกล่าวได้ว่า ขอนไม้เป็นอุปกรณ์ดนตรีชิ้นแรกที่มนุษย์รู้จักใช้ในการให้จังหวะ
หรือเมื่อถึงเวลาล่าสัตว์ นายพรานยุคดึกดำบรรพ์บางคนที่อาศัยอยู่ใกล้ทะเลอาจใช้วิธีเป่าเปลือกหอยขนาดใหญ่
เพื่อบอกตำแหน่ง ของตนและเหยื่อ เพราะเขาได้พบว่าเสียงเป่าหอยสามารถเดินทางไปได้ไกลกว่าเสียงตะโกน
ดังนั้นคนเหล่านี้อาจใช้จังหวะการเป่า เป็นสัญญาณสื่อสารถึงกันได้เช่น ส่งเสียงดังสองครั้งแสดงว่าเหยื่ออยู่ทางซ้าย
หรือสัญญาณเสียงสามครั้งแสดงว่าเหยื่ออยู่ทางขวา เป็นต้น

ตัวอย่างเหล่านี้แสดงให้เราเห็นว่า มนุษย์สร้างดนตรีขึ้นมาอย่างมีจุดมุ่งหมาย เช่น ใช้ในการล่าสัตว์หรือในพิธีเทวบูชา
หรือเพื่อ ความสำราญ เมื่อความสามารถในการสร้างสรรค์ของมนุษย์มีมากขึ้น
มนุษย์ได้พบว่าก้อนหินในถ้ำเวลานำมากระแทกกัน สามารถให้เสียงที่ทำให้
ตนรู้สึกสุขได้หรือเวลาเอาหนังสัตว์ที่แห้งมาขึงให้ตึง แล้วใช้ไม้ตีเขาจะได้ยินเสียงสูงๆ ต่ำๆ
และถ้าเขานำหนังสัตว์ไปขึงปิดปากภาชนะ แล้วตีด้วยไม้หรือมือ ภาชนะดังกล่าวจะทำให้เขาได้ยินเสียงดังกังวาน
นี่คือเทคโนโลยีการทำกลองรุ่นแรกๆ ส่วนคนที่ชอบยิงธนูก็ได้พบว่า สำหรับคันธนูที่มีเชือกขึงเวลาเขาดีดเชือกจะมีเสียงเกิดขึ้น
และถ้าเขาเปลี่ยนตำแหน่งของเชือกแล้ว ดีดใหม่เสียงที่ได้ยินจะดังไม่เหมือนเดิม
นี่คืออุปกรณ์ที่เราทุกวันนี้รู้จักกันในนามว่า พิณ ซึ่งนักโบราณคดีก็ได้เห็นภาพของพิณโบราณปรากฏบนผนังกำแพงเมือง Ur
ของชาว Sumerian ที่มีอายุประมาณ 4,600 ปี และที่ผนังหลุมฝังศพของฟาโรห์ Nebamun ที่เมือง Thebes
ในอียิปต์ก็มีภาพ แสดงนักดนตรีกำลังเล่นอุปกรณ์ดนตรีชนิดหนึ่งที่เรียกว่า lute (พิณที่มีลักษณะคล้ายน้ำเต้า)
เมื่อ 3,400 ปีก่อนนี้ คัมภีร์ไบเบิล มีการกล่าวถึงเครื่องดนตรีชนิดหนึ่งที่เรียกว่า psaltery
ซึ่งทำด้วยกล่องไม้ที่มีเชือกพาดเหนือกล่อง และสามารถให้เสียงได้ เวลาคนเล่นดีดเชือก
ส่วนอุปกรณ์ดนตรีประเภทขลุ่ยนั้น คงเกิดจากการที่มนุษย์โบราณได้พบว่า เวลาเขาบริโภคไขกระดูกที่มีในกระดูกสัตว์แล้ว
กระดูก กลวงที่ถูกเจาะเป็นรูเวลาเป่าจะให้เสียงได้เช่นกัน


__________________
ชีวิต Light Worker@Facebook
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สันโดษ : 20-06-2008 เมื่อ 09:14 PM

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น