พระเจ้าอยู่หัวกับการดนตรี
บรรยายในชั้นเรียนปริญญาเอก วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดย อาจารย์สันทัด ตัณฑนันทน์ สรุปคำบรรยายโดย ประพันธ์ศักดิ์ พุ่มอินทร์
(หากมีความประสงค์นำบทความเพื่อการเผยแพร่ กรุณาอ้างถึง อาจารย์สันทัด ตัณฑนันทน์ เป็นผู้บรรยายด้วย)
อาจารย์สันทัด ตัณฑนันทน์ ท่านเริ่มชีวิตการเป็นนักดนตรีด้วยการเล่นดนตรีในชมรมดนตรี ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และได้มีโอกาสเข้าไปเล่นดนตรีในรายการ “ดนตรีนักเรียนวันศุกร์” ของสถานีวิทยุ อส. พระราชวัง โดยท่านได้มีโอกาสเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ในห้องทรงดนตรี และในหลวงทรงรับสั่งว่า จะมาเล่นดนตรีที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจึงเกิด การทรงดนตรีตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เป็นประจำทุกปีตั้งแต่ พ.ศ. 2501 จนถึง ปี พ.ศ. 2516 จึงได้ยกเลิกไปเนื่องจากเหตุการณ์การเมืองไม่ปรกติ ดังนั้น อาจารย์สันทัด ตัณฑนันทน์ จึงได้มีโอกาสร่วมบรรเลงดนตรีกับพระองค์ท่านในเวลาต่อมาในวงดนตรี อส. และตามเสด็จถวายงานอย่างใกล้ชิด
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำริให้ทำสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้ต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ได้ถูกรวบรวมและนำเสนอให้เด็กไทยเข้าใจได้โดยง่าย ซึ่งแนวความคิดนี้เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างยิ่งต่อเยาวชนไทย เพราะถ้าเนื้อหาวิชาต่าง ๆ เป็นภาษาอังกฤษเยาวชนไทยก็ยากที่จะเข้าถึงความรู้เหล่านั้น ซึ่งประเทศแถบเอเซียที่พัฒนาอย่างรวดเร็วส่วนใหญ่จะนำความรู้ภาคภาษาอังกฤษมาแปลเป็นภาษาของตนเอง เช่น ประเทศญี่ปุ่น ประเทศจีน แม้แต่วิชาการดนตรีก็ถูกนำมาแปลจนหมดสิ้น ทำให้เด็กประเทศนั้นได้รับความรู้อย่างมาก และความก้าวหน้าทางการศึกษาส่งผลให้การพัฒนาประเทศเกิดความรุ่งเรืองอย่างยิ่ง
ทางด้านการส่งเสริมให้ประชาชนและเยาวชนรักการอ่าน การศึกษาค้นคว้า ท่านทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งห้องสมุดประชาชนขึ้น ดังที่ห้องสมุดประชาชนสวนลุมพินี ซึ่งท่านยกตัวอย่างประธานาธิบดีลินคอร์นของประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่ได้มีโอกาสเรียนในโรงเรียนสามัญ แต่อาศัยการเรียนรู้จากห้องสมุดสาธารณะ จนมีความรู้ความเชี่ยวชาญ โครงการพระราชดำริของท่านหลายโครงการไม่ได้อาศัยเงินงบประมาณมากแต่อย่างใด ตัวอย่างเช่น โครงการจราจรเคลื่อนที่เร็ว (ม้าเร็ว) ซึ่งในหลวงและสมเด็จย่า ท่านได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์มา 2 ล้านบาทเพื่อให้ซื้อรถมอเตอร์ไซด์ และฝึกงานให้ตำรวจจราจรสามารถปฏิบัติงานได้อย่างรวดเร็ว ไปปลดล็อคการจราจรของกรุงเทพ ฯ นอกจากนั้นยังฝึกให้มีความสามารถในการปฐมพยาบาลผู้ป่วย การทำคลอดกรณีฉุกเฉิน ซึ่งเป็นการลงทุนโดยการพัฒนาความรู้ความสามารถและเพิ่มสมรรถนะในการทำงานของตำรวจ เป็นโครงการที่ยังเห็นผลปรากฏอยู่ในปัจจุบันนี้
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เคยมีรับสั่งกับคณะนักดนตรี อส. ว่า ดนตรีแจ๊ส เล่นไปเถอะดี ดีต่อตัวเองด้วย อาจารย์สันทัด ตัณฑนันทน์ ท่านได้กลับไปคิดทบทวนข้อความโดยละเอียดแล้วถึงเข้าใจความหมายว่า ครั้งหนึ่ง ดร.สายสุรี จุติกุล ซึ่งท่านเป็นนักดนตรีที่ชอบแนวดนตรีคลาสสิกมากกล่าวว่า ดนตรีแจ๊สต้องใช้ปฏิภาณในทันทีทันใด การเล่นอย่างมีปฏิภาณก็คือการคิดอย่างมีสติสัมปชัญญะ ซึ่งถ้าจะกล่าวไปแล้ว ดนตรีแจ๊สแม้จะเป็นดนตรีในวัฒนธรรมของชาวอเมริกา แต่ชาวรัสเซียซึ่งถือว่าเป็นคนละขั้วในทางความคิดกับคนอเมริกันก็นิยมเล่นดนตรีแจ๊สเช่นเดียวกัน ภาษาของดนตรีแจ๊สเป็น Suddenly Expression การคิดแบบมีปฏิภาณเป็นสิ่งสำคัญมากในการดำรงชีวิตของคนเรา แม้แต่ในเรื่องสามก๊ก ขงเบ้งได้กล่าวว่า อาจารย์บังทองผู้นี้มีความสามารถมากกว่าข้าพเจ้าถึง 10 เท่า แต่ในเชิงของการยกย่องแน่นอนว่าผู้คนต้องยกย่องขงเบ้งมากกว่าเพราะมีปฏิภาณไหวพริบที่เหนือกว่ามาก การจัดระเบียบของความคิดหรือกรอบความคิดจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ดนตรีแจ๊สกับดนตรีไทยก็มีส่วนละม้ายกันตรงที่ต้องใช้ปฏิภาณในการเล่นเหมือนกัน ดนตรีไทยมีทำนองของฆ้องวงใหญ่เป็นหลัก แต่ในการเล่นแต่ละเครื่องก็อาศัยการแปรทำนองไปเรื่อย ๆ เป็นการใช้ความคิดในปัจจุบันเพื่อสร้างทำนองแปรผันไปตามความสามารถของผู้เล่น ซึ่งอาจเปรียบเทียบเครื่องดนตรีไทยที่สร้างทำนองเช่น ระนาดเอก เหมือนกับคลาริเน็ตในวงแจ๊ส ระนาดทุ้มเหมือนทรอมโบน เพราะสร้างทำนองขัด ๆ หรือทำนองตลกคล้ายกัน ฆ้องวงเล็กเหมือนเป็นเทเนอร์แซกโซโฟน ดนตรีไทยมีการแปรทำนองลูกฆ้องตลอดเวลา เพราะถ้าเล่นโดยจำแบบครูอย่างเดียวก็จะไม่สนุก นี่เป็นความพิเศษของดนตรีไทยที่มีความเป็นแจ๊สมาเป็นพันปี ดังนั้นเราต้องเล่นให้ถึงขั้นการสร้างสรรค์ (Creative) เพราะนี่เป็นของดีของเรา ความคิดของมนุษย์ในเรื่องปฏิภาณสร้างสรรค์จึงไม่ได้แตกต่างกันไปตามชาติและเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ
การที่ในหลวงท่านทรงดนตรีอยู่อย่างสม่ำเสมอ เป็นการฝึกจิตให้สามารถสั่งงานได้ทันที นอกเหนือจากการผ่อนคลายความเครียดจากพระราชกรณียกิจตลอดทั้งวันแล้ว ท่านก็ทรงดนตรีเพื่อเป็นการสร้างพลังจิตด้วย ตรงกับพุทธศาสนาที่ว่าด้วยเรื่อง สติปัตฐาน ที่แม่ชีวัดอรุณกล่าวว่า เวลาฝึกจิต ให้นึกถึงแต่ปัจจุบัน อดีตไม่กำหนด อนาคตไม่คิดถึง ตามความคิดของเราให้เท่าทันในปัจจุบัน การเล่นดนตรีแบบ Improvisation ก็เป็นการฝึกจิตในปัจจุบัน ไม่สามารถวางแผนล่วงหน้าได้ เป็นการใช้งานความคิดในปัจจุบันจริง ๆ ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่ง
ทางด้านพระราชอัจฉริยภาพทางการพระราชนิพนธ์เพลงของในหลวงนั้น มีครบทุกแนวดนตรี เช่น แนวคลาสสิกก็มีเรื่อง มโนราห์ ซึ่งเป็นดนตรีประกอบบัลเล่ท์ นอกนั้นก็เป็นแนวดนตรีแจ๊สเป็นส่วนใหญ่ เพลงพระราชนิพนธ์ของท่านทุกเพลงจะมีโครงสร้างที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งสามารถนำไปบรรเลงได้ทุกรูปแบบ ถ้าจะลองวิเคราะห์โครงสร้างตามหลักทฤษฎีดนตรีจะพบว่า โครงสร้างที่นักประพันธ์เพลงส่วนใหญ่ใช้กันจะเป็น ABA , AABA , ABAC , ABCB แต่ในบทเพลงพระราชนิพนธ์จะมีโครงสร้างเพลงที่ไม่ค่อยซ้ำกัน ซึ่งท่านได้ใส่ความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ลงไปเสมอ ดังนั้น เมื่อท่านทรงนำเพลงพระราชนิพนธ์ไปบรรเลงร่วมกับนักดนตรีแจ๊สระดับชั้นนำของโลก ดังที่เราเห็นได้จาก ภาพยนตร์ส่วนพระองค์และภาพยนตร์เรื่อง คีตราชัน จะพบว่านักดนตรีทุกคนที่ร่วมบรรเลงพยายามใส่ความคิดสร้างสรรค์ และบรรเลงออกมาผสมเข้ากันอย่างที่เราไม่สามารถจับได้ว่า เสียงเครื่องดนตรีไหนที่พระองค์ท่านกำลังบรรเลงอยู่ เพราะความสามารถพระองค์เทียบเท่านักดนตรีระดับโลกเหล่านั้น คล้ายกับที่ มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมท กล่าวไว้ว่า เล่นกลอนต้องฝีปากเสมอกันถึงจะเพราะ
เพลงพระราชนิพนธ์ที่มีเนื้อเพลงก่อนแล้วมีทำนองตามมามีหลังจะมีน้อยเพลง เช่น เราสู้ (เนื้อร้องโดย สมภพ จันทรประภา) , รัก (เนื้อร้องโดย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ) , ความฝันอันสูงสุด (เนื้อร้องโดย ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุญนาค) นอกนั้นจะเป็นเพลงที่มีทำนองก่อนแล้วประพันธ์เนื้อเพลงทีหลัง การที่ท่านทรงพระราชนิพนธ์ทำนองหลังจากมีเนื้อร้องเกิดขึ้นก่อนนั้นเป็นเรื่องยากมากที่จะทำให้เพลงไพเราะ เนื่องด้วยทำนองจะถูกอักขรคอยกำกับอยู่ แต่ท่านก็ทรงพระราชนิพนธ์ได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการใช้ปฏิภาณ อย่างเพลงรัก ที่ท่านทรงเป่าแซกโซโฟน ในขณะที่ทอดพระเนตรเนื้อร้องไปด้วย แล้วให้อาจารย์แมนรัตน์ ศรีกรานนท์ เป็นผู้ถอดโน้ตออกมา นี่เป็นพระราชอัจฉริยภาพที่น้อยคนนักจะรู้เรื่องนี้
โดย อาจารย์สันทัด ตัณฑนันทน์ สรุปคำบรรยายโดย ประพันธ์ศักดิ์ พุ่มอินทร์
(หากมีความประสงค์นำบทความเพื่อการเผยแพร่ กรุณาอ้างถึง อาจารย์สันทัด ตัณฑนันทน์ เป็นผู้บรรยายด้วย)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น